เด็กที่เกิดจากหญิง
ซึ่งมิได้มีการจดทะเบียนสมรสกับชาย
กฎหมายให้ถือว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิง
จึงต้องอยู่ในอำนาจปกครองของมารดาแต่เพียงผู้เดียว
ถึงแม้ชายจะยินยอมให้บุตรใช้นามสกุล และทะเบียนบ้านระบุว่าเป็นบิดาก็ตาม
ก็ไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งชายจะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายได้
ต้องเป็นกรณีจดทะเบียนสมรสกับมารดาบุตร หรือจดทะเบียนรับรองบุตร หรือ
ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร แต่กรณีเป็นเพียงบุตรนอกกฎหมาย
ตามกฎหมายให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดาน
บุตรมีเพียงสิทธิที่จะได้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมลำดับที่ 1 ของบิดาเท่านั้น
ดังนั้น
เมื่ออำนาจปกครองบุตรอยู่กับมารดาแต่เพียงผู้เดียว หากบิดาไม่ยินยอมคืนบุตร
อันถือเป็นการโต้แย้งสิทธิ ทนายลำพูน และทีมทนายความลำพูนขอเรียนว่า มารดาย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องเรียกบุตรคืนจากบิดาได้
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฏีกา
ที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
3780/2543
โจทก์จำเลยอยู่กินด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนสมรสซึ่งตาม
ป.พ.พ. มาตรา 1546
บัญญัติว่า
เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย
ให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น ดังนั้น จึงถือได้ว่าเด็กชาย จ.
เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์และมิใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของจำเลย
ดังนั้นอำนาจปกครองเด็กชาย จ. นั้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 1566 วรรคหนึ่ง
คือต้องอยู่กับโจทก์ซึ่งเป็นมารดาฝ่ายเดียว เมื่อจำเลยมิได้เป็นบิดาตามความหมายของมาตรา
1566
ดังกล่าว
การตกลงระหว่างโจทก์จำเลยที่ให้เด็กชาย จ.
อยู่ในความปกครองของจำเลยจึงไม่มีผลผูกพันเป็นเหตุให้จำเลยมีอำนาจปกครองเด็กชาย จ.
ตามมาตรา 1566
วรรคสอง
(6)
จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะกำหนดที่อยู่ของเด็กชาย
จ. ให้อยู่กับตนตามมาตรา 1567
(1) ได้
ทนายลำพูน และทีมทนายความลำพูนขอเรียนว่า โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยส่งมอบเด็กชาย
จ. คืนจากจำเลยตามมาตรา 1567
(4)
คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเพียงคำให้การแก้ฟ้องของโจทก์ว่า
โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ฟ้องคดีโดยไม่สุจริตเท่านั้น
ข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างมิใช่ข้อเท็จจริงที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ
ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นจึงไม่เป็นคำฟ้อง ตาม ป.วิ.พ.
มาตรา 172
วรรคสอง
ดังนั้น ข้อเท็จจริงส่วนนี้จึงถือไม่ได้ว่าเป็นฟ้องแย้ง
แม้โจทก์จะไม่ได้แก้ข้อเท็จจริงที่จำเลยได้ให้การไว้ก็ไม่อาจรับฟังข้อเท็จจริงนี้ตามที่จำเลยได้ให้การได้
เพราะโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องยื่นคำให้การแก้คำให้การของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
1804/2523
โจทก์ฟ้องเรียกบุตรคืนเมื่อแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่าโจทก์จำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสจำเลยไม่ได้จดทะเบียนว่าเด็กเป็นบุตร
หรือศาลพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรข้อเท็จจริงจึงเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้แล้ว
ไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่สมควรเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและได้ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนอำนาจปกครองนั้น
ทนายลำพูน และทีมทนายความลำพูนขอเรียนว่า เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นในคดีที่มีว่าโจทก์มีสิทธิเรียกบุตรคืนจากจำเลยหรือไม่ศาลมีอำนาจงดสืบพยานหลักฐานได้ตาม
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าขณะนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของบุตรทั้งจำเลยจดทะเบียนว่าเป็นบุตรแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ส่งบุตรคืน
นั้น จำเลยกล่าวอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกามิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา 249
คำพิพากษาฎีกาที่
16395/2557
ผู้เยาว์เป็นบุตรเกิดจากโจทก์ซึ่งเป็นหญิงที่มิได้สมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย
ซึ่งตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 1546 ให้ถือว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น
เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ส่วนจำเลยที่ 1 แม้อ้างว่าเป็นบิดาของผู้เยาว์
แต่เมื่อผู้เยาว์มิได้เกิดจากบิดามารดาที่สมรสกัน
การจะอ้างว่าผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายก็ต่อเมื่อบิดามารดาสมรสกัน
หรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้มีลักษณะที่ปรากฏตามความดังกล่าว
จำเลยที่ 1
จึงหามีสิทธิใดๆในตัวผู้เยาว์ไม่
ทั้งนี้ตามป.พ.พ. มาตรา 1547
ดังนั้น
โจทก์จึงเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์แต่เพียวผู้เดียว
เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยทั้งสองดูแลเลี้ยงดูผู้เยาว์ ทนายลำพูน
และทีมทนายความลำพูนขอเรียนว่าโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยทั้งสองคืนผู้เยาว์แก่โจทก์ได้
ตามป.พ.พ. มาตรา 1567(1)และ(4) ที่โจทก์เป็นผู้กำหนดที่อยู่ของบุตร
และเรียกคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบได้
ข้ออ้างของจำเลยทั้งสองที่ว่าดูแลผู้เยาว์ดีกว่าโจทก์ไม่อาจรับฟังได้
เพราะจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิใดๆในตัวผู้เยาว์ไม่อาจอ้างเหตุเหนือสิทธิของโจทก์ผู้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้เยาว์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
3461/2541
บุคคลอื่น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567(4) หมายถึง บุคคลอื่นนอกจากผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร
ซึ่งได้แก่ บิดามารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตร
จำเลยมิใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของบุตรผู้เยาว์
จำเลยจึงไม่เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองของบุตรผู้เยาว์ ทนายลำพูน
และทีมทนายความลำพูนขอเรียนว่า ตามกฎหมายย่อมไม่มีสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1567(1)
ถึง
(4)
การที่จำเลยกักบุตรผู้เยาว์ไว้จึงเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจและเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ผู้เป็นมารดาของผู้เยาว์ย่อมมีสิทธิเรียกบุตรผู้เยาว์คืนจากจำเลยได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ที่เกี่ยวข้อง
มาตรา
1546
เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย
ให้ถือว่าเป็น บุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น
มาตรา
1567
ผู้ใช้อำนาจปกครองมีสิทธิ
(1)
กำหนดที่อยู่ของบุตร
(2)
ทำโทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน
(3)
ให้บุตรทำการงานตามสมควรแก่ความสามารถและฐานานุรูป
(4)
เรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
คำวินิจฉัยที่
ยช.1/40
ฟ้องเรียกบุตรคืนโดยอ้างว่าเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1566,1567(1)
ตามบรรพ
5
ถือว่าเป็นคดีครอบครัว
ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทนายลำพูน
และทีมทนายความลำพูน
1
ปัญหาคือชนะคดีแล้ว
ไปรับบุตรพร้อมเจ้าหน้าที่บังคดี แต่บุตรไม่ยอมมา
เนื่องจากมีความผูกพันกับครอบครัวสามี
อย่างนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่สามารถบังคับเด็กได้
เพราะคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ
หากต้องการพาบุตรมาต้องขอให้ศาลออกหมายเรียกตัวความและเด็กมาสอบถาม
2
บิดาไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่มีสิทธิที่จะกำหนดที่อยู่บุตร
3
การที่บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายกับมารดาทำข้อตกลงกันว่าให้บิดาใช้อำนาจปกครองในวันจันทร์ถึงวันศุกร์และให้มารดาใช้อำนาจปกครองบุตรในวันเสาร์อาทิตย์นั้น
ข้อตกลงดังกล่าวไม่ผูกพันมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
เพราะไม่มีกฎหมายให้ตกลงกันเช่นนั้นได้
ต่อมาเมื่อมารดาชอบด้วยกฎหมายประสงค์จะเรียกบุตรคืนจากบิดาไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งถือว่าเป็นผู้อื่นตามความหมายของมาตรา
1567
ที่กักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
มารดาเรียกบุตรคืนได้
4
การกำหนดที่อยู่บุตร
กล่าวคือ การอนุญาตให้บุตรไปพักอาศัยอยู่กับคนอื่นได้ เช่น ให้ปู่ย่าตายาย
ไปเลี้ยง ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้าน เป็นต้น
5
บุคคลอื่น
คือ ไม่ใช่บิดามารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
6
การเรียกบุตรคืน
เป็นคดีแพ่ง ต้องใช้สิทธิทางศาลเท่านั้น แต่อาจขอตำรวจไปช่วยไกล่เกลี่ยได้
7
หากยังดื้อแพ่ง
สามารถจับขังได้ ตามคำสั่งศาล
8
การใช้สิทธิทางศาล
บางกรณีก็อาจจบด้วยความรวดเร็ว แค่ได้รับหมายศาลเท่านั้น
9
ส่วนกรณีของพ่อแม่ที่ชอบด้วยกฎหมายทั้งสองฝ่ายนั้น
ศาลอาจตัดสินให้บุตรอยู่กับบิดาหรือมารดาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยก็ได้
หรืออาจให้ใช้อำนาจปกครองร่วมกัน โดยแบ่งเวลาดูแลลูกกันตามสมควร
#ทนายลำพูนอาสาช่วยท่านด้วยใจ #ทนายลำพูน
#ทนายความลำพูน #ทนายลำพูนเก่ง #ปรึกษาทนายลำพูน #ทนายอาสาลำพูน #ปรึกษาทนายลำพูนฟรี #ทนายความลำพูนมืออาชีพ #ที่ปรึกษากฎหมายลำพูน #ปรึกษาทนายลำพูน #รายชื่อทนายความลำพูน #สำนักทนายความลำพูน #ทนายเก่งๆลำพูน #สภาทนายความลำพูน #สำนักงานกฎหมายลำพูน #ทนายที่ดินลำพูน #ทนายอาสาศาลลำพูน #ทนายอาสาศาลากลางลำพูน #กฎหมายลำพูน #สำนักงานทนายความลำพูน #สำนักงานกฎหมายลำพูน #สำนักงานกฎหมายในจังหวัดลำพูน
#ทนายฝึกงานลำพูน #ฝึกงานทนายลำพูน #LawFirmลำพูน #ปรึกษาทนายลำพูน #ทนายเก่งลำพูน #ทนายลำพูนpantip #ทนายอาสาลำพูน
#ปรึกษาทนายฟรีลำพูน #ทนายลำพูนเก่ง
#ทนายความลำพูนเก่ง #ทนายอาสาลำพูนฟรี
#สํานักงานกฎหมาย ลำพูน
#ทนายครอบครัวลำพูน #ทนายสองพี่น้อง
#ทนายฝาง #ทนายอาสาเก่งๆ #ทนายสันป่าตอง #ทนายสันทราย #ทนายแม่ริม
#ทนายสันกำแพง #ทนายสารภี #ทนายความลำพูนคดีหย่า